ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
ยุโรป

ปราการด่านสุดท้าย | การลดเวลาตั้งแต่เริ่มแสดงอาการจนถึงมาถึงโรงพยาบาล

หากภารกิจของเราคือการทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทุกคนได้รับโอกาสในการรอดชีวิตเป็นอย่างดีที่สุด เราก็ต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหา “ปราการด่านสุดท้าย” ในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันให้ได้
ทีม Angels 31 สิงหาคม 2563

 

"ระเบียบปฏิบัติของเราพร้อมแล้ว เราได้ทําการจําลองสถานการณ์และทีมทีมดูแลรักษาโรคหลอดเลือดสมองของฉันได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ของเรายังคงมาถึงนอกกรอบเวลา" หากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลของคุณ ให้อ่านวิธีที่เราจะแก้ไขปัญหา "ด่านหน้าสุดท้าย" นี้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

กลุ่มฮีโร่

บนความแตกต่างหลากหลายนี้ ฝั่งหนึ่งคือประเทศออสเตรียที่มีผู้ป่วยราว 70% มาถึงโรงพยาบาลภายในเวลา 3 ชั่วโมงหลังเริ่มเกิดอาการ ตามข้อมูลเผยแพร่จากฐานข้อมูลหน่วยโรคหลอดเลือดสมองออสเตรีย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้น ข้อมูลจากฐานข้อมูลตามโรงพยาบาลในเม็กซิโกแสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยเพียงประมาณ 25% เท่านั้นที่มาถึงทันเวลา ข้อแตกต่างคืออะไร

ที่ Angels Initiative เราเชื่อมั่นว่าหน้าที่ของเราคือการแก้ไขปัญหาความยุ่งยาก ไม่ใช่การสร้างความยุ่งยากเพิ่มเติม ดังนั้น เมื่อประสบปัญหาเช่นนี้ เราจึงตั้งเป้าหมายที่จะลดความยุ่งยากของปัญหาลงให้ได้ก่อนที่จะเริ่มแก้ไข เมื่อวิเคราะห์จุดที่ได้ผลดีอย่างประเทศออสเตรียแล้วนำไปเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลในเม็กซิโกกับสถานที่อื่น ๆ ที่แย่กว่า เราเชื่อมั่นว่าปัญหานี้แก้ไขได้โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็น ดังนี้

 1. มีโรงพยาบาลที่พร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในพื้นที่ที่มีชัยภูมิครอบคลุมเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ป่วยที่เกิดอาการสามารถมาถึงโรงพยาบาลได้ทันท่วงที ซึ่งในกรณีของประเทศออสเตรียก็เป็นไปตามข้อนี้ โดยตั้งเป้าให้โรงพยาบาลที่พร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีรัศมีครอบคลุมผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่และสามารถเดินทางมาถึงภายในเวลา 45 นาที  
2. ทํางานร่วมกับบริการรถพยาบาลเพื่อจัดส่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองไปยังโรงพยาบาลที่พร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเท่านั้น ในพื้นที่ที่พัฒนาแล้ว อาจมีรายการตรวจสอบขั้นสูงเพื่อตรวจหาการอุดตันของหลอดเลือดใหญ่ (Large Vessel Occlusion) โดยให้เป็นเกณฑ์ตัวเลือกหนึ่งในการส่งตัวผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 
3.ให้ความรู้แก่ประชากรที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองและสิ่งที่ต้องทําเมื่อปรากฏ 

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการช่วยพื้นที่ต่าง ๆ ให้พัฒนาความครอบคลุมด้านบริการโรคหลอดเลือดสมอง เพียงแค่ในทวีปยุโรป เราได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลกว่า 130 แห่งที่ไม่เคยรับรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมาก่อนให้ได้มีระเบียบการสำหรับโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน งานของเรายังไม่เสร็จสิ้น โดยเมื่อใช้สูตรคำนวณและเทคโนโลยีการจัดทำแผนที่เช่นเดียวกับที่ใช้ในประเทศออสเตรียแล้ว เรายังสามารถช่วยให้ผู้ประสานงานในท้องถิ่น ตลอดจนโรงพยาบาลใหม่ ๆ ได้วางแผนความครอบคลุมในพื้นที่ของตนให้ตรงตามความต้องการได้อีกด้วย 

เราได้บทเรียนมาจากตัวอย่างในประเทศบัลแกเรียซึ่งมีบทบาทสำคัญสำหรับการวัดจำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องนอนโรงพยาบาล และซึ่งบริการรถพยาบาลไม่มีความพร้อมสำหรับรองรับโรคหลอดเลือดสมอง ในกรณีนั้น มีโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพียง 34 แห่งจากทั้งหมด 134 แห่ง ซึ่งให้การดูแลผู้ป่วยในระยะเฉียบพลันได้ ผลลัพธ์ที่ได้รับนั้นน่าสนใจ แต่ก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการแก้ไขปัญหา บริการรถพยาบาลนี่เองที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้: จากตัวอย่างที่มีความโดดเด่นในประเทศสโลวาเกียและสเปน เราได้บทเรียนมาว่า บริการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการมีระเบียบการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย และวงจรการให้ข้อเสนอแนะที่รับประกันได้ว่าระเบียบการเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริง 

ส่วนประเด็นที่อาจแก้ไขได้ลำบากขึ้นก็คือประเด็นที่ 3 การให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยง การระบุและให้ความรู้แก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องอาการของโรคหลอดเลือดสมองและวิธีการรับมือเมื่อเกิดขึ้นนั้นอาจดูแล้วเหมือนจะง่ายดาย ความท้าทายคืออายุเฉลี่ยของโรคหลอดเลือดสมองคือประมาณ 70 ปี และการค้นหาวิธีการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลและโซเชียลไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ประชากรอายุน้อยกว่า 

ปัญหาที่สองคือ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม ไม่มีใครต้องการพูดคุยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากเป็นโรคที่มักมองกันว่า “เป็นเพียงอีกโรคที่ทำให้เราเสียชีวิตได้ เราทำอะไรไม่ได้หรอก” ผู้คนจึงมักเลือกที่จะไม่นำเรื่องนี้ไปคิด 

อาจถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองผู้ป่วยซึ่งอาจเกิดโรคหลอดเลือดสมองในแง่มุมที่ต่างออกไป ขณะที่กำลังเดินผ่านหน่วยโรคหลอดเลือดสมองขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเบลเกรด ฉันก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเท่านั้น แต่ยังเป็นปู่ย่าตายายของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย นี่คือห้องที่เต็มไปด้วยปู่ย่าตายายที่เจ็บป่วยเท่านั้นเอง! 

ไม่นานมานี้มีการศึกษาที่น่าสนใจมากชิ้นหนึ่งจากประเทศอิตาลี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสิ่งแรกที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกว่า 90% ทำหลังจากที่เกิดอาการก็คือติดต่อหาคำแนะนำจากผู้อื่น ซึ่งกว่า 70% ของ “ผู้ที่ให้คำปรึกษาแนะนำ” นี้ก็คือญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง โชคไม่ดีนักที่การศึกษาระบุว่ามีผู้ที่ให้คำปรึกษาเพียง 30% เท่านั้นที่แนะนำผู้ป่วยให้เรียกรถพยาบาล อีกนัยหนึ่งก็คือ หากเราต้องการให้ความรู้ความเข้าใจแก่กลุ่มประชากรเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เราก็ควรหาวิธีการให้ความรู้ต่อทั้งปู่ย่าตายายและลูกหลานด้วย 

เราได้กล่าวไปแล้วว่าผู้คนมักไม่ต้องการกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เราจึงควรเรียนรู้จากการสร้างความตระหนักของโรคอื่น ๆ อย่างโครงการสุภาพบุรุษคนพิเศษ ซึ่งช่วยให้ผู้ชายได้มีส่วนร่วมในเรื่องที่ตนไม่อยากกล่าวถึง เช่น โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และการฆ่าตัวตาย เป็นต้น แนวทางก็คือการทำให้ผู้ชายได้มีส่วนร่วมในสิ่งที่อยากกล่าวถึง เช่นการแต่งตัว “สุดจ๊าบ” เหมือนหนุ่มในภาพยนตร์จากยุค 70 หรือเรื่องการขับขี่รถจักรยานยนต์ 

ฮีโร่ FAST


สิ่งหนึ่งที่เราทราบว่าประชากรกลุ่มเสี่ยงชอบกล่าวถึงก็คือเรื่องของหลาน ๆ ทำไมไม่นำสิ่งนี้มาใช้เป็นแนวทางสำหรับให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองแก่ทั้งครอบครัว พร้อมทั้งทำให้เด็ก ๆ ได้มีความใกล้ชิดกับปู่ย่าตายายมากยิ่งขึ้นดูบ้างล่ะ

เราจึงพัฒนาโปรแกรมที่เด็กอายุระหว่าง 5 ถึง 9 ขวบจะเลือกให้ความรู้แก่ปู่ย่าตายายหรือญาติพี่น้องจำนวนสองคน เป็นภารกิจสำหรับฮีโร่ FAST เราร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญจากสาขาวิชาการศึกษาของมหาวิทยาลัยมาซิโดเนียในการจัดทำโปรแกรม 5 สัปดาห์ที่ให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนาน ร่วมกิจกรรม รับชมการ์ตูนสนุก ๆ และทำ “บัตรข้อความ” ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการต่อสู้กับลิ่มเลือดตัวร้ายเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองให้แก่ปู่ย่าตายายของตน เรายังให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมผ่านทางเว็บไซต์และทางสิ่งต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ นำกลับบ้าน 

เรียนรู้วิธีการเป็นฮีโร่ FAST


วิกฤตการณ์โควิด-19 ส่งผลให้โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดเรียนไป การเริ่มใช้โปรแกรมจึงต้องหยุดชะงักลง เราจึงต้องกลับมาวางแผนใหม่ โดยต้องหาวิธีแบบ “ดิจิทัล” ให้กับเด็ก ๆ โดยยังคงความสนุกสนานและการมีส่วนร่วมเหมือนที่ทำได้ในชั้นเรียน เราต้องการให้เด็ก ๆ ทำภารกิจให้ความรู้ความเข้าใจแก่ปู่ย่าตายายตามเดิมอีกด้วย ความท้าทายที่ยากที่สุดของโปรแกรมดิจิทัลก็ไม่ต่างจากการประชุมหรือการฝึกอบรมออนไลน์ที่เราทุกคนเคยผ่านมา ซึ่งก็คือการหาวิธีให้คนได้มีส่วนร่วม 

แนวทางแก้ไขของเราคือการเปลี่ยนแคมเปญ 5 สัปดาห์ในโรงเรียนให้กลายเป็นอีบุ๊กแบบทดลอง 5 เล่มที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน เกม การ์ตูน และกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับให้ความรู้ความเข้าใจแก่ครอบครัว เพื่อรักษาระดับการมีส่วนร่วมให้สูง เรายังได้ปรับปรุงเว็บไซต์ (fastheroes.com) และเพิ่มประสบการณ์ทั้งหมด อีกนัยหนึ่งคือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ครอบครัวได้ทำทางออนไลน์จะทำให้ได้แต้มคะแนนและเหรียญตราซึ่งสามารถนำไปใช้ได้หลายวิธี พวกเขาสามารถแข่งขันกับเพื่อน ๆ ได้บนกระดานผู้นำ ใช้แต้มเพื่อปลดล็อกเกมออนไลน์ และยังใช้แต้มเพื่อรับสินค้าฮีโร่ FAST แบบดิจิทัลที่สามารถดาวน์โหลดได้อีกด้วย 

อีบุ๊ก


เราได้เปิดตัวแคมเปญนำร่องแบบดิจิทัลนี้ในประเทศโปรตุเกส สเปน ฮังการี และโปแลนด์ โดยมีครอบครัวที่เข้าร่วมโปรแกรมแล้วกว่า 7,000 ครอบครัว จากความสำเร็จนั้น เราจึงเริ่มขยายแคมเปญดิจิทัลนี้ไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน 

ข้อมูลช่วงต้น ๆ จากกลุ่มผู้ปกครอง ซึ่งเด็ก ๆ ได้เข้าร่วมแคมเปญ FAST Heroes ในกรีซ แสดงให้เห็นว่ามีเพียงประมาณ 4% ของผู้ปกครองเท่านั้นที่ทราบอาการที่พบบ่อยที่สุดของโรคหลอดเลือดสมองก่อนนําไปใช้ ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากโดย 88% สามารถจําอาการได้อย่างน้อย 3 อาการหลังจากการนําไปใช้

เราคาดหวังว่าการค้นพบวิธีที่ทำให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้มีส่วนร่วมในเรื่องที่ไม่ขัดข้อง (การได้เจอกับหลาน ๆ) พร้อมทำให้ได้รับความรู้อย่างสนุกสนาน จะส่งผลเรื่องการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับอาการที่พบได้บ่อยครั้งของโรคหลอดเลือดสมอง และความจำเป็นในการโทร 112 เพื่อเรียกรถพยาบาลในทันที 

หากประสบความสำเร็จ เราอาจค้นพบวิธีทำลายปราการด่านสุดท้ายของการรักษาโรคหลอดเลือดสมองก็เป็นได้  
 

เรื่องราวเพิ่มเติมเช่นนี้

คีร์กีซสถาน

พบกับวีรบุรุษ FAST แห่งคีร์กีซสถาน

ในคีร์กีซสถาน มีซูเปอร์ฮีโร่ 10,000 คนที่มีอายุตั้งแต่ 5 ถึง 9 ขวบได้เริ่มปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยปู่ย่าตายายของพวกเขาแล้ว
สิงคโปร์

วีรบุรุษ FAST เริ่มดำเนินการในสิงคโปร์

ในไม่ช้า ปู่ย่าตายายทุกคนอาจมีซูเปอร์ฮีโร่ตัวเล็กที่มีตัวเลขสามหลักที่สำคัญมากอยู่ที่ปลายนิ้ว
ระดับโลก

การสำรวจผู้ป่วย | มีผู้ป่วยกี่คนที่มาถึงตรงเวลา

การสำรวจผู้ป่วยของ Angels Initiative ให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับการเดินทางของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจนได้รับการรักษา
เข้าร่วมชุมชน Angels
Powered by Translations.com GlobalLink Web Software