Without a doubt, 24 มกราคม 2562 will be remembered as a historic day in our hospital, writes Dr. Federico Giner of Luis C. Lagomaggiore Hospital.
โรงพยาบาล Luis C. Lagomaggiore รักษาผู้ป่วยประมาณ 11,000 คนต่อปี ทำให้เป็นโรงพยาบาลสาธารณะสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองในจังหวัดเมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา ทว่าจนกระทั่งปลายปี 2018 ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่มีการรักษาด้วยการเปิดหลอดเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบอย่างเป็นระบบ
โชคดีที่บุคลากรของโรงพยาบาลเราได้รับการฝึกอบรมเรื่องวิธีการจัดการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลันครั้งแรกในวันที่ 18 มกราคม 2562 ด้วยการสนับสนุนจาก Angels Initiative
โดยเป็นเจ็ดชั่วโมงที่เข้มข้น นำโดยผู้นำด้านโรคหลอดเลือดสมองตีบที่เก่งที่สุดในประเทศสองคน คือดร. Adolfo Savia และดร. Cristina Zurrú การฝึกอบรมนั้นมุ่งเน้นไปที่ปัญหาหลักของการดูแลจัดการผู้ป่วยเหล่านี้ โดยจะถ่ายทอดทั้งความรู้และประสบการณ์จริง
สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรเน้นอย่างหนึ่งคือความทุ่มเทและการสนับสนุนจากบุคลากรของโรงพยาบาล เนื่องจากการฝึกอบรมนี้มีผู้เข้าร่วม 85 คนจากหลายแผนกซึ่งรวมไปถึงแพทย์และพยาบาลจากแผนกรักษาพยาบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤติ ประสาทวิทยา คลินิกเวชกรรม แผนกโรคหัวใจและหน่วยฉุกเฉิน รวมไปถึงห้องปฏิบัติการและช่างเทคนิคการถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่จัดการและผู้ดูแลระบบ… ทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ในตอนท้ายของวันฝึกอบรม พวกเราปฏิบัติการจำลองแบบตามเวลาจริง ทีมโรคหลอดเลือดสมองทำการประเมินและรักษาผู้ป่วยจำลอง สามารถทำเวลาตั้งแต่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลจนได้รับการรักษาได้ที่ 22 นาที 33 วินาที - เป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนในขณะนั้น
แต่พวกเรารู้ดีว่าการทดสอบที่แท้จริงคือการได้รักษาผู้ป่วยจริงต่างหาก ซึ่งเราก็ไม่ต้องรอนานเลย
หกวันให้หลังมีผู้ป่วยที่น่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลันเข้ามายังห้องฉุกเฉิน เขาเริ่มแสดงอาการเมื่อ 40 นาทีก่อน การปฏิบัติการรับมือโรคหลอดเลือดสมองจริงจึงเริ่มขึ้นโดยทันที เมื่อมาถึงพื้นที่แผนกประสาทวิทยา ผู้ป่วยได้รับการประเมินจากบุคลากรแผนกฉุกเฉินและได้รับการต่อท่อ IV 2 ท่อ จากนั้นตามมาด้วยการสแกนสมองด้วย CT และได้รับการเคลื่อนย้ายไปยังหน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยทันที และเริ่มการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือด
และนั่นเป็นการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดโดยการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลจนได้รับการรักษา 41 นาที! นี่เป็นครั้งแรกของพวกเรา ซึ่งมันจะเร็วขึ้นได้อีกหลังจากที่ทีมทำการรักษาผู้ป่วยมากขึ้นและมีประสบการณ์มากขึ้น แต่นี่ก็ถือว่าไม่เลวสำหรับการรักษาจริงครั้งแรก!