ต้องมีคนเป็นผู้บุกเบิก ซึ่งในบรรดาผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขของเมืองซานฮวน ประเทศอาร์เจนตินานั้น ความท้าทายและเกียรติยศดังกล่าวเป็นของทีมโรคหลอดเลือดสมองประจำโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson ที่ได้ดำเนินการรักษาด้วยการเปิดหลอดเลือดดำเป็นครั้งแรกท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อ
ชายวัยเกษียณอายุ 74 ปีจากเมืองซานฮวนอาจเป็นชายที่โชคดีที่สุดในอาร์เจนตินา ถึงแม้จะไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ภรรยาของเขาสังเกตเห็นอาการที่ทราบว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคหลอดเลือดสมอง เธอพาสามีที่ป่วยไปโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson อย่างไม่รอช้า ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่ให้การรักษาพยาบาลเฉพาะทางแก่ประชากรจำนวน 600,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตซานฮวน ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกองุ่นทางตะวันตกของอาร์เจนตินา
หากเกิดขึ้นเพียง 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยที่มีคะแนน NIHSS เท่ากับ 18 ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองขั้นรุนแรง รายนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการรักษา และในอีก 10 ชั่วโมงข้างหน้าก็จะสูญเสียเซลล์สมองมากถึง 2 ล้านเซลล์ทุก ๆ นาที ส่งผลให้สมองเกิดความเสียหาย พิการ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้
แต่เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ในขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอกสองในประเทศอาร์เจนตินายังมาไม่ถึงเมืองซานฮวน ทีมแพทย์ พยาบาล นักรังสีวิทยา และนักประสาทวิทยากลุ่มเล็ก ๆ ได้เข้าร่วมการประชุมแบบตัวต่อตัวกับที่ปรึกษา Angels เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 3 คน และเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกหลายพันคนต่อไป ในระหว่างการประชุม ได้มีข้อตกลงกันว่าจะกลับมาฝึกอบรมการรักษาโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่เมื่อปีก่อน พร้อมให้การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีคุณสมบัติเหมาะสมรายต่อไปที่มาถึงโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson เพื่อเข้ารับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือด ซึ่ง 17 วันต่อมา ชายวัยเกษียณอายุ 74 ปีก็ได้กลายเป็นผู้ป่วยรายนั้น
เพียงลงมือทำ
Mariana Wolf หัวหน้าทีม Angels ประจำภูมิภาคกล่าวว่า ที่ปรึกษา Angels ที่เริ่มการฝึกอบรมที่โรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson ในปี 2562 ได้พบกับทีมที่กระตือรือร้นแต่ยังไม่มีทรัพยากรในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบระยะเฉียบพลัน การฝึกอบรมนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความเชี่ยวชาญของนักประสาทวิทยาด้านหลอดเลือด ดร. Santagio Pigretti และพยาบาลวิชาชีพ Yamila Selan ซึ่งมาจากโรงพยาบาลกลาง Mendoza และมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกคนในแผนการจัดการโรคหลอดเลือดสมอง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรงทางเข้าไปจนถึงนักรังสีวิทยาในห้อง CT
แต่เมื่อถึงเวลาจัดหาทรัพยากรการรักษาจากกระทรวงสาธารณสุข ทวีปอเมริกาใต้ก็เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมากยิ่งขึ้น ทำให้บริการรักษาพยาบาลต้องรับมือกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดของยุคนี้
แต่ในช่วงเวลาหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอกแรก ทีมงานได้ระดมความคิดที่จะให้โอกาสกับชีวิตอีกครั้ง
ดร. Mariana Riveros นักประสาทวิทยาผู้มากประสบการณ์ที่เพิ่งมาถึงเมืองซานฮวนเมื่อปี 2562 กล่าวว่า “เราได้เปลี่ยนเป้าหมายไปแล้ว” ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหน่วยโรคหลอดเลือดสมองของโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson ความกล้าหาญและความเป็นผู้นำของดร. Riveros คือปัจจัยสำคัญ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 รหัสโรคหลอดเลือดสมองได้เปิดใช้งานขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 300 ปีของโรงพยาบาล
สัญญาณดังกล่าวมาจากหน่วยพยาบาลในห้องฉุกเฉินกลาง ซึ่งผู้ป่วยที่แสดงอาการบกพร่องทางระบบประสาทจากโรคหลอดเลือดสมองจะได้เข้ารับการรักษาภายในกรอบเวลา ดร. Riveros เล่า “หน่วยประสาทวิทยาจะได้รับแจ้งทันที หลังจากประเมินเบื้องต้นแล้ว เราได้ทำการสแกน CT สมอง และผู้ป่วยของเราได้รับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดผ่านทางหลอดเลือดดำในห้องฉุกเฉินกลาง ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังห้องไอซียู
“ถึงเราจะต้องสู้กับความล่าช้าและการฝึกอบรมที่ไม่เพียงพอ แต่ระยะเวลาจากประตูจนได้รับการรักษาก็เป็น 80 นาที และคะแนน NIHSS ก็ดีขึ้นจนมากกว่า 4 คะแนน”
ทำอีกครั้งให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ถึงแม้โรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson จะยังไม่ลงทะเบียนในฐานข้อมูลคุณภาพการดูแลรักษาโรคหลอดเลือดสมอง RES-Q แต่ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดครั้งแรกที่ทีมรวบรวมมาได้ก็นับว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญ เนื่องจากในอีก 48 ชั่วโมงต่อมาก็ได้มีโอกาสที่จะดำเนินการอีกครั้ง ในคราวนี้เจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยเป็นผู้เปิดใช้รหัสโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ช่วยให้ทีมสามารถลดระยะเวลาจากประตูจนได้รับการรักษาลงได้ถึง 10 นาที
ผู้ที่โชคดีที่สุดเป็นอันดับสองในเมืองซานฮวน คือช่างก่ออิฐอายุ 54 ปีที่มีคะแนน NIHSS เท่ากับ 14 โดยสมาชิกในครอบครัวพามาส่งโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson ทำให้ชายผู้นี้กลายเป็นผู้ป่วยรายที่สองที่ได้รับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดจากทีมของดร. Riveros เมื่อออกจากโรงพยาบาลด้วยคะแนน NIHSS เท่ากับ 2 เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้คาดได้ว่าผู้ป่วยรายนี้จะกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยมีผลสืบเนื่องเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
“ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่า เรามาถูกทางแล้ว และเราต้องก้าวไปข้างหน้า” ดร. Riveros กล่าวในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ทีมงานรักษาผู้ป่วยรายที่ 3 ได้สำเร็จ
“แน่นอนว่า เมื่อผู้ป่วยที่ได้รับการรักษามีจำนวนมากขึ้น และทีมงานมีประสบการณ์มากขึ้น เวลาที่ใช้ในการรักษาก็จะดีขึ้น กระบวนการก็จะเป็นระเบียบมากขึ้นตามไปด้วย”
มุ่งสู่ความสมบูรณ์แบบ
การรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดครั้งแรกของทีมโรคหลอดเลือดสมองแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำได้ จากนั้นก็จะเปลี่ยนจุดสำคัญไปเป็นการทำให้สมบูรณ์แบบ Mariana Wolf กล่าว โดยทีมงานพร้อมที่จะเปิดตัวแผนการฝึกอบรมใหม่สำหรับเมืองซานฮวนในทันทีที่สถานการณ์โรคระบาดเอื้ออำนวย
“เรามีโปรแกรมการฝึกอบรมพิเศษอยู่ในใจจำนวน 2 รายการ คือการฝึกอบรมการถ่ายภาพสำหรับนักรังสีวิทยา และการฝึกอบรมการดูแลผู้ป่วยก่อนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับบริการรถพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ด้วย เพื่อให้เราสามารถครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องในแผนการจัดการนี้ได้ทุกคน”
บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในจังหวัดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และแม้ว่ารถพยาบาลจะส่งผู้ป่วยหมายเลข 3 ไปยังโรงพยาบาล Dr Rawson แต่การไม่ได้แจ้งเตือนก่อนถึงโรงพยาบาลก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อเวลาในการรักษา
การฝึกจำลองสถานการณ์จะจัดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ Mariana กล่าว “การจำลองสถานการณ์ช่วยแสดงให้เห็นถึงปัญหาคอขวดในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก โดยระบุโอกาสซึ่งที่ปรึกษา Angels สามารถเข้าไปดำเนินการได้”
แทนที่จะพัฒนาหน่วยโรคหลอดเลือดสมองหน่วยใหม่ในภูมิภาคทันที แต่เป็นที่คาดหวังว่าทีมงานของโรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson จะกลายเป็นศูนย์กลางของเครือข่าย TeleStroke โดยที่โรงพยาบาลขนาดเล็กสามารถเข้าถึงคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการและสาเหตุสำหรับการให้ยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ
เห็นได้ชัดเจนว่าการเป็นที่หนึ่งนั้นนอกจากจะนำมาซึ่งการยอมรับแล้ว แต่ยังรวมไปถึงความรับผิดชอบอีกด้วย ด้วยความเป็นผู้นำที่เด็ดขาดของดร. Riveros และการสนับสนุนของ Angels Initiative ในไม่ช้า โรงพยาบาล Dr Guillermo Rawson จะมีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่านี้มาเล่าให้ฟัง